จากมติคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ให้ขยับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG จากราคาถังละ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) เป็น 423 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลระหว่างวันที่ 1-31 มี.ค. 2566 นั้น เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกยังสูงกว่าราคาขายมาก โดยปัจจุบันกระทรวงพลังงานใช้กลไกการสนับสนุนราคาของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) อุดหนุนในเดือนก.พ. 2566 ที่ราว 648 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 23.13 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการปรับขึ้นราคาของกบง. จะช่วยให้กองทุนน้ำมันฯ ลดเงินอุดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 417 ล้านบาท หรือวันละ 13.44 ล้านบาท จากกก.ละ 9 บาท เหลือ กก.ละ 8 บาทกว่า ๆ ซึ่งบัญชีกองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันยังคงติดลบ ณ วันที่ 26 ก.พ. 2566 ที่ 104,012 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชี LPG ที่ติดลบ 46,095 ล้านบาท และบัญชีน้ำมันที่ติดลบที่ 57,917 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องรอดูว่านายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธาน กบง. จะพิจารณาให้ปรับราคาในเดือนเม.ย. 2566 ขึ้นหรือคงราคาไว้หรือไม่ อย่างไร
“ส่วนตัวก็อยากให้ขึ้นราคา เพราะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบเยอะและรับไม่ไหวแล้ว จึงควรจะขึ้นให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็เข้าใจว่ากระทบประชาชนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีเงินแล้ว จังหวะนี้หากเก็บเงินคืนได้ก็ควรเก็บก่อน เพราะหากการเมืองใหม่มา เดี๋ยวก็ต้องปรับลดราคาตามนโยบายที่หาเสียง ดังนั้น อาจจะขึ้นกก.ละ 1 บาท ก็ไม่น่าเกลียด อีกทั้ง ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูที่ราคาแอลพีจีแพงจึงควรรีบเอาเงินคืนมาก่อน”
กรุงเทพธุรกิจ :https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1055521
มติชน :https://www.matichon.co.th/economy/news_3849138
คมชัดลึก :https://www.komchadluek.net/news/economic/543950
คมชัดลึก :https://www.komchadluek.net/clip-vdo/general-clip/543970
ข่าวสด :https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7536509
ไทยโพสต์ :https://www.thaipost.net/economy-news/333337/